ว่าง เบื่อ ว่าง เบื่อ Wanna bot..
เลยไปบีบคอกูเกิลถามว่า "มีบทความเกี่ยวกับดนตรีดี ๆ ปะ"
มันก็คายอันนี้ออกมาให้เสพกันทั่วหน้า
อืมม......................................แม้จะไม่มีการยืนยันถึงข้อกฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษรมาบังคับ แต่เป็นอันเข้าใจกันว่า
ทุกครั้งของการแสดงมหรสพนานาชนิดเสร็จสิ้น พวกเราชาวไทยทุกคนจะต้องพร้อมใจกันแสดงความจงรักภักดีต่อองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการยืนตรงต่อบทเพลงสรรเสริญพระบารมี
เฉกเช่นเดียวกับในโรงภาพยนตร์ ก่อนที่หนังจะฉาย
แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยว่าระยะเวลาของการยืนสงบนิ่งเคารพต่อองค์ในหลวงของเราเพียงนาทีกว่าๆ นี้ มีเรื่องราวที่น่าสนใจหลายต่อหลายเรื่องทีเดียว...
*ที่มากับความหลากหลายในปัจจุบัน
แม้จะไม่สามารถระบุได้ถึงวันที่แน่นอน แต่ประมาณการกันว่า ที่มาของการให้เปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีภายในโรงภาพยนตร์นั้น
เริ่มมีระเบียบออกมาตั้งแต่ปี 2478 โดยระยะแรกนั้นจะเป็นการเปิดหลังจากที่มีการจัดฉายภาพยนตร์ไปแล้ว ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเปิดก่อนที่หนังจะฉายเมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว
ที่ผ่านมาเคยมีการพูดเสนอให้เลิกการเปิดเพลงสรรเสริญฯ ในโรงภาพยนตร์ โดยให้เหตุผลว่า ปัจจุบันในโรงภาพยนตร์มีประเภทหนังหลายประเภท ทั้งเรตอาร์ (rate R sex) และความรุนแรง (violence) ซึ่งดูแล้วไม่เหมาะสมเท่าไหร่ แต่เรื่องดังกล่าวก็หายไปเพราะไม่มีใครเห็นด้วย ปัจจุบันเข้าใจกันว่า
การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีนี้ไม่ได้มีกฎหมายบังคับให้ทางโรงภาพยนตร์จะต้องทำ แต่ก็ได้กลายเป็น 'จารีต' ที่ผู้ประกอบการล้วนแล้วแต่ทำด้วยความจงรักภักดีกันทั้งสิ้น...โรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ เพลงสรรเสริญฯ เวอร์ชั่นปัจจุบันใช้ชื่อชุด 'นิทรรศการ' เปิดมาเป็นคำถวายพระพร เป็นฉากเด็กยืนถวายพระพรหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ตัดเป็นภาพพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ท่านเสด็จฯ ทรงเยี่ยมพสกนิกรตามภาคต่างๆ ภาพที่พระองค์ท่านให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนในเรื่องการเกษตรเช่นเรื่องฝนเทียม ตอนท้ายภาพพสกนิกรมากมายยืนไหว้ถวายพระพร ภาพจะตัดสลับระหว่างภาพในหลวงกับประชาชน ภาพในหลวงจากพื้นดินแห้งแล้ง เป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ ภาพในหลวง พื้นดินแห้งแล้ว มาเป็นภาพฝนตก
(เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จัดทำร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ผู้เรียบเรียงดนตรี คือ บรูซ แกสตัน แห่งวงฟองน้ำ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2538 จัดทำบทเพลงสรรเสริญพระบารมีเพื่อใช้ในโรงภาพยนตร์ทั้งสิ้น 4 เวอร์ชัน)
เอสเอฟ เปิดทำการมาตั้งแต่ปี 2542 ได้เปลี่ยนเพลงสรรเสริญฯ ทั้งหมดทั้งสิ้น 2 เวอร์ชัน ชุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นชุด 'หยาดฝน' ที่เป็นเสียงดนตรีไทย ผู้เรียบเรียงดนตรีคือ บรูซ แกสตัน
เซ็นจูรี่ เครือใหม่ เปิดมาได้เพียง 2 เดือน เนื่องจากทางโรงภาพยนตร์ได้มองเห็นอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีของในหลวงในการเป่าแซ็กฯ เพลงสรรเสริญฯ ชุดที่ใช้อยู่จึงเป็นชุดที่มีเสียงแจ๊ซเป็นดนตรีหลัก และไม่มีเสียงร้อง เรื่องการดำเนินภาพจะเป็นกรอบรูปที่เป็นพระราชกรณียกิจของพระเจ้าอยู่หัวตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์จนถึงปัจจุบันขึ้นมาทีละภาพ ซึ่งหนึ่งในรูปภาพเหล่านั้นมีภาพที่ในหลวงทรงกำลังเป่าแซ็กโซโฟนอยู่ด้วย เสียงเป่าแซ็กฯ โดยเศกพล อุ่นสำราญ หรือโก้ แซ็กแมน เรียบเรียงโดย ปราชญ์ มิวสิค
"คง" จะเป็นอันนี้แหละ หาตั้งนาน
ลิโด้, สยาม, สกาล่า เป็นโรงหนังในเครือเดียวกันเปิดทำการมาไล่เลี่ยกัน โดยเปิดมาได้ประมาณ 40 ปีแล้ว เปลี่ยนเพลงสรรเสริญฯ มาแค่เพียง 2 เวอร์ชันเท่านั้น ซึ่งเวอร์ชันล่าสุดที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นชุด 'จิ๊กซอว์' ที่มีภาพออกมาพร้อมกับเพลงสรรเสริญฯ มีภาพในหลวงขึ้นมาเป็นภาพจิ๊กซอว์มาต่อกัน จะมีภาพพระองค์ท่านเสด็จไปสถานที่ต่างๆ แล้วภาพจะค่อยๆ เลื่อนมาเป็นจิ๊กซอว์รูปพระพักตร์ของในหลวง ผู้เรียบเรียงดนตรี บรูซ แกสตัน
น่าจะเป็นอันนี้นะถ้าเดาไม่ผิด
โรงหนังเฮาส์ เพิ่งเปิดมาได้ปีครึ่ง เพลงสรรเสริญฯ ที่ใช้เป็นเวอร์ชั่นเดียวกับของโรงหนังลิโด้,สยาม และสกาล่า
สำหรับเครืออีจีวี ฟิล์มเพลงสรรเสริญฯ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ทำเป็นกราฟิก ในหลวงทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในรูปแบบต่างๆ ภาพการขึ้นครองราชย์ ท้ายสุดเป็นภาพเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ เสียงร้องเพลงสรรเสริญฯ นี้มาจากบุคคลมีชื่อเสียงมากมาย อาทิ เจริญ วรรธนะสิน, อุ้ม-สิริยากร พุกกะเวส, ดร.อ้อ-กฤติกา คงสมพงษ์ และดีเจพีเค ซึ่งจะร้องกันคนละท่อน แล้วมีเสียงประสานของ นักร้องอินดี้อย่าง แพม-ลลิตา ตะเวทิกุล เป็นแบ็กกราวนด์
ไม่แน่ใจว่าใช่อันนี้มั้ย แต่มันดูคล้ายมากสุดแล้วล่ะ
*ทำขึ้นเองโดยเฉพาะ-ซื้อสำเร็จรูป
เหตุผลของการเปลี่ยนเป็นเวอร์ชันต่างๆนี้โดยมากเป็นเพราะว่าฟิล์มที่ใช้เก่าเกินไปทำให้ภาพที่ออกมาอาจจะไม่คมชัด จึงต้องมีการผลิตกันขึ้นมาใหม่ บางโรงภาพยนตร์ในสมัยปัจจุบันนี้ อาทิ เมเจอร์, อีจีวี และเซ็นจูรี่ จะมีเพลงสรรเสริญฯ ในเวอร์ชันที่เป็นของตัวเอง โดยมีทีมงานทำขึ้นให้โดยเฉพาะ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีเวอร์ชันของทั้ง 3 โรงที่ว่านี้จะไม่เหมือนใคร จะมีฉายเฉพาะในโรงของตัวเองเท่านั้น
แต่ก็มีโรงภาพยนตร์ไม่น้อยที่ฉายเพลงสรรเสริญฯ ในเวอร์ชันที่เหมือนกัน เนื่องจากทางโรงได้ไปขอซื้อฟิล์มจากบริษัทโปรดักชัน เฮาส์ที่เขาทำเพลงสรรเสริญขึ้นมาเพื่อไว้ขาย เช่นโรงของ ลิโด้,สกาล่า,เอสเอฟ หรือแม้แต่โรงหนังอินดี้อย่าง เฮ้าส์ก็ซื้อแบบสำเร็จรูปมาเช่นกัน
"บริษัทเราจะทำฟิล์มเพลงสรรเสริญฯ ขึ้นมาขายเหมือนกับบริษัทที่ทำเทปเพลงหรือวีซีดี ,ดีวีดีนะค่ะ คือเราไม่ได้รับจ้างทำให้แก่โรงภาพยนตร์นั้นโรงภาพยนตร์นี้โดยเฉพาะ คือเราขายทั่วๆไปเจ้าของโรงภาพยนตร์ชอบแบบไหนเขาสนใจแบบไหนเขาก็ซื้อแบบนั้นไปใช้" ยุพาวดี ศรีสงวนสกุล ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และปฏิบัติการบริษัทโกลเด้นดั๊ก ฟิล์ม จำกัด บอกถึงจุดยืนของบริษัทตัวเอง
เธอเล่าต่อว่า อันที่จริงบริษัทของเธอทำธุรกิจเกี่ยวกับขายอุปกรณ์เครื่องเสียงเครื่องฉายให้แก่โรงภาพยนตร์มาได้ 30 ปีแล้ว โดยเริ่มขายอะไหล่ให้แก่หนังกลางแปลงมาก่อน แล้วเมื่อ10 ปีก่อน โรงหนังเริ่มจะเข้ามาอยู่ในห้าง บริษัทของเธอจึงเริ่มนำแผ่นเครื่องเสียงดิจิตอลเข้ามาใช้ จะว่าไปธุรกิจของสาววัย 36 ปีคนนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการผลิตหนังหรือผลิตสื่ออะไรโดยตรงเลย จึงมีคำถามตามมาว่าเหตุใดเธอถึงหันมาทำเพลงสรรเสริญฯ เพื่อขายเหมือนอย่างทุกวันนี้?
"เหตุผลที่เราทำเพลงสรรเสิรญฯ ขึ้นมา เพราะตอนแรกเราคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นหนังกลางแปลงหรือโรงภาพยนตร์ เมื่อจะต้องฉายภาพยนตร์ด้วยกฎหมายที่ระบุว่า ต้องมีเพลงสรรเสริญฯ ก็เท่ากับว่าฟิล์มเพลงสรรเสริญฯ เป็นของที่โรงภาพยนตร์ต้องใช้อยู่ตลอด ด้วยความที่ร้านเราขายของให้โรงหนังอยู่แล้วก็เลยต้องทำมันขึ้นมา ชุดแรกที่ทำก็เพื่อซัปพอร์ตกลางแปลง มันก็เหมือนกับเป็นของที่ขายหน้าร้านเราอย่างหนึ่งนะค่ะ"
แม้ว่าจะเป็นสินค้าที่ทุกโรงภาพยนตร์จำเป็นต้องใช้ แต่ยุพาวดีก็ไม่คิดทำฟิล์มสรรเสริญฯ เป็นสินค้าหลักของบริษัทด้วยเหตุที่ว่า...
"เราบอกไม่ได้หรอกนะค่ะว่า เราจะผลิตฟิล์มสรรเสริญฯ ออกมากี่ปีครั้ง หรือมีนโยบายการผลิตตรงนี้ยังไง เพราะเรียนตรงๆ ว่า ทำตรงนี้เราไม่ได้กำไรแน่ๆ บอกได้เลยว่าไม่คุ้มในเรื่องของต้นทุนการผลิต แต่ละตัวฟิล์มที่ขายไปเนี่ยไม่คุ้ม
"อีกอย่างตอนนี้โรงหนังหลักๆ แต่ละกรุ๊ป เขาก็มีเพลงสรรเสริญฯ เป็นของเขาเองด้วย จะเห็นว่า เพลงสรรเสริญฯ ของเมเจอร์จะไม่ไปฉายอยู่ในโรงอื่นๆ แน่นอน โรงภาพยนตร์ต่างๆ เขาก็มีคุณภาพกันมากขึ้น หนังกลางแปลงก็น้อยลง ฉะนั้นเราจึงไม่ทำฟิล์มเพลงสรรเสริญฯ มาเป็นสินค้าหลักค่ะ"
ถึงจะเป็นสินค้าที่ไม่นำเงินมาให้แก่บริษัท แต่ยุพาวดีก็ยังคงเล่าถึงผลงานของตัวเองต่อไป ด้วยน้ำเสียงที่ภูมิใจ และปลื้มปีติอย่างที่สุด"เราทำมาได้ 3 เวอร์ชันแล้วค่ะ ก็คือจะมีเวอร์ชั่นแรก สมัยโน้นเทคโนโลยียังไม่มาก มีแค่เฟดอัปเฟดดาวน์เท่านั้น มีภาพขึ้นมาสองภาพ ตอนนั้นทำเป็นสีซีเปียก็คือเป็นภาพที่มีทั่วไปของในหลวงตั้งแต่สมัยทรงพระเยาว์จนมาถึงในเรื่องของพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์ต่างๆ
"ต่อมาก็เป็นชุดใบโพธิ์ ซึ่งเมื่อก่อนเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์นำไปใช้ ตอนที่เขาไม่ได้ทำเวอร์ชันของเขาเอง ชุดนี้มีคอนเซ็ปต์ว่า ในหลวงเปรียบเหมือนกับเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนชาวไทยคือ มีถ่ายรูปต้นโพธิ์แล้วก็เจาะไปในใบโพธิ์แต่ละใบ ดูพระราชกรณียกิจของพรองค์ท่านว่า ทรงเหนื่อยเพื่อพสกนิกรขอย่างไร พระองค์ท่านเปรียบเหมือนเป็นต้นโพธิ์ต้นไทรให้แก่พสกนิกร"
เพลงสรรเสริญฯ ชุด 'ใบโพธิ์' นี้ถือว่าเป็นชุดบุกเบิกที่ทำให้ผู้ผลิตหลายๆ เจ้าต่างพยายามสร้างสรรค์คิดไอเดียในการนำเสนอเรื่องราวของในหลวงให้ออกมาให้คนทั่วไปได้ตระหนักและซาบซึ้งถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงอย่างแท้จริง โดย หม่อมยุพเยาว์ คันธาภัสระ จากบริษัทแมสโค จำกัด ซึ่งเป็นผู้ครีเอทฟิล์มชุดนี้บอกว่า จุดแรกเริ่มที่คิดทำ เนื่องมาจากเมื่อก่อนเธอรู้สึกว่าคนไม่ค่อยให้ความสนใจกับเพลงสรรเสริญฯ มากนัก ไม่เข้าใจว่าเพลงสรรเสริญพระบารมีนั้นมีความหมายอย่างไร เธอจึงได้สร้างให้เป็นเรื่องราวให้คนเข้าใจได้ง่ายว่า ในหลวงท่านทรงทำอะไรเพื่อประชาชนของพระองค์ท่านบ้าง ขึ้นมา หลังจากนั้นเราจึงได้เห็นเพลงสรรเสริญฯ ในหลากหลายรูปแบบที่มีความหมายต่างๆ นานมากขึ้น
ชุดที่โรงภาพยนตร์ใช้กันอยู่ในปัจจุบันที่บริษัทได้จัดจำหน่ายก็เห็นจะเป็นชุด 'หยาดฝน' ที่เป็นเสียงดนตรีไทยจากหลากหลายอุปกรณ์ดนตรีในภาคต่างๆ ของไทยมารวมเข้าด้วยกัน
"ชุดหยาดฝน แรกสุดเป็นภาพเริ่มจากพื้นดินแห้งๆ แล้วหลังจากนั้นก็คือในรูปเล็กๆในหยาดฝนแต่ละเม็ดที่ตกลงมาก็คือภาพพระราชกรณียกิจของในหลวงที่ท่านไปดูแลในเรื่องชลประทาน เรื่องของการทำยังไงให้ป่าอุดมสมบูรณ์ให้มีน้ำมีฝน คอนเซ็ปต์ตรงนี้เรามองว่าในหลวงท่านทำงานเน้นในเรื่องการเกษตรกรรม พระองค์ท่านช่วยดูแลและพัฒนาจากความแห้งแล้งจนทำให้ประเทศไทยเราอุดมสมบูรณ์มีฝนตกมีน้ำไหลในทั่วทุกที่นะค่ะ"
เธอขยายความ และอธิบายเบื้องหลัง ซึ่งเป็นขั้นตอนการทำหนังเพลงสรรเสริญฯ ชุดนี้ว่า
"อย่างแรกสุด ก็ดูที่สตอรี่บอร์ด ดูคอนเซ็ปต์ของหนังว่าเป็นยังไง หลังจากนั้นดูว่า เป็นเพลงประเภทไหนทำนองยังไง เราอยากจะหาใครที่มาเป็นคนทำเนื้อร้องหรือทำนอง สมมติว่าเราอยากได้เพลงบรรเลง พอดีบริษัทเราได้มอบให้อาจารย์บรูซ แกสตั้นทำ อาจารย์เขาก็จะบรรเลงเพลงตรงนี้ให้อยู่ในคอนเซ็ปต์ซึ่งท่านอาจจะมีลูกเล่นอย่างไรก็แล้วแต่ ถ้าจะไปแปลงจนเกินไปมันก็คงไม่ใช่ เพราะโดยส่วนใหญ่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับเพลงสรรเสริญฯ เขาจะรู้กฎเกณฑ์อยู่แล้วว่าจะต้องไม่ให้เกิดอะไรที่เป็นการผิดหรือลบลู่ หมิ่นพระบรมเดชานุภาพนะค่ะ ซึ่งอาจารย์บรูซก็จะทราบสโคปของท่านดีว่า ทำได้แค่ไหนให้ไม่ผิดเพี้ยน หรือถ้าสมมติว่าเราอยากได้เสียงร้อง ท่านก็จะจัดธีมของเพลงเลือกสรรมาให้เรา แล้วเราจะดูว่าเพลงที่ได้เข้ากับสตอรี่บอร์ดมั้ย ถ้าเข้ากันเราถึงจะดำเนินการ"
ทั้งนี้เรื่องของ
การทำฟิล์มเพลงสรรเสริญพระบารมีไม่ต้องมีการผ่านกองเซ็นเซอร์แต่อย่างใด เพียงแต่ต้องทำจดหมายส่งไปที่สำนักพระราชวังเพื่อขอใช้พระบรมฉายาลักษณ์ต่างๆ หรืออาจจะขอคัดพระบรมฉายาลักษณ์เท่านั้น... แถมๆๆ รู้สึกอันนี้จะเป็นของพารากอนนะ
*** ล้อมกรอบ ***
โอกาสในการบรรเลงเพลง "เพลงสรรเสริญพระบารมี"
1. พิธีการที่พระบาท
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และหรือ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จฯ
2. พิธีการที่พ
ระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนารถ เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยประมุขต่างประเทศ ให้ดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติของประเทศนั้น จบแล้วบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จฯ ในกรณีที่ประมุขต่างประเทศเสด็จฯ หรือไปตามลำพัง ดุริยางค์บรรเลงเพลงชาติของประเทศนั้น
3. พิธีการที่สมเด็จ
พระศรีนครินทรา บรมราชชนนีเสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จฯ
4. พิธีการที่สมเด็จ
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนิน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีทั้งรับและส่งเสด็จฯ
5. พิธีการที่
ผู้แทนพระองค์ปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ในงานเสด็จพระราชดำเนิน
6. ถ้า
ผู้แทนพระองค์คือสมเด็จพระบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ พระบรมราชวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า หรือพระวรราชาทินัดดามาตุ เมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จมาถึง ดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาชัย และเมื่อผู้แทนพระองค์ประทับเรียบร้อยแล้ว ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการเปิดงาน เมื่อปิดงาน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเมื่อผู้แทนพระองค์เสด็จกลับดุริยางค์บรรเลงเพลงมหาชัย
5. ถ้าผู้แทนพระองค์
เป็นบุคคลอื่น เมื่อผู้แทนพระองค์มาถึง ดุริยางค์ไม่บรรเลงเพลงใด ๆ และเมื่อผู้แทนพระองค์นั่งเรียบร้อยแล้ว ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีเป็นการเปิดงาน เมื่อปิดงาน ดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี และเมื่อผู้แทนพระองค์กลับ ดุริยางค์ไม่ต้องบรรเลงเพลงใด ๆ
ขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า คลิปที่ได้มาทั้งหมด ข้าพเจ้าเป็นคนไปดึงมาจากยูทูปเอง
เพราะงั้น อืม ถ้ามันจะมีปัญหา ลิขสิทธิ์ อะไร ก็... ข้าพเจ้าเอง
ขอบอกว่าทั้งหมดที่ลง มาจากฝรั่ง
ตลกมั้ย? เพลงของมหากษัตริย์ไทย คนเอาไปลงเป็น "ฝรั่ง"
จริง ๆ ก็เพราะเค้าเปิดมือถือแอบถ่ายแหละนะ... คนไทยอาจจะโดนกฎหมายซัดไปแล้วมั้ง
Credit : http://atcloud.com/stories/57055
ขอบคุณ ฝรั่ง และ ยูทูป ไว้ ณ ที่นี้ด้วย