เหตุไฉนคนแปลของทรอมโบนมันถึงเข้าท่ากว่าทรัมเป็ตวะ
แต่ก็คงดี มั้ง?? จะได้ไม่ต้องแปลหลายรอบ เบื่อTrombone
ทรอมโบน เป็นเครื่องดนตรีในตระกูลทองเหลือง ผลิตเสียงจากการสั่นสะเทือนของริมฝีปากผู้เล่น (อธิบายแบบนี้เข้าท่ากว่าเยอะเลยนะ) ทำให้เกิดกระแสลมในเครื่อง ทรอมโบนเป็นเครื่องที่เปลี่ยนระดับเสียงโดยการเปลี่ยนความยาวของสไลด์ แต่ก็มีทรอมโบนบางประเภท เช่น Valve trombone ที่มีลูกสูบ 3 อันเหมือนกับทรัมเป็ตด้วย
Tenor Trombone และ Playing range
คำว่า Trombone มาจากภาษาอิตาเลียน คำว่า tromba (trumpet) กับ –one (หมายถึง ใหญ่) เพราะงั้นมันก็เลยแปลว่า ทรัมเป็ตเครื่องใหญ่ ทรอมโบนและทรัมเป็ตมีรูปร่างที่คล้ายกัน คือ bore เป็นทรงกระบอก เพราะงั้น Tenor หรือ bass ทรอมโบนก็คืออีกภาคะนึงของทรัมเป็ต เป็นเครื่อง Bb แต่ปกติทรอมโบนเป็นเครื่อง C คือระดับเสียงเดียวกับปกติ
โครงสร้าง
ทรอมโบนมีลักษณะเป็นท่อทรงกระบอกงอเป็นรูปตัว S เล็กที่สุดที่ใส่เมาท์พีซและใหญ่ที่สุดตรงปากแตร รูปร่างและการผลิตส่งผลถึงเสียงที่ออกมา เหมือนกับเครื่องทองเหลืองประเภทอื่น ๆ ผลิตเสียงได้โดยการเป่าลมผ่านริมฝีปากที่สั่นสะเทือน
เมาท์พีซมีรูปร่างเป็นทรงถ้วยเหมือนกับ Baritone horn แบบเดียวกับทรัมเป็ต สวมพอดีกับที่ใส่เมาท์พีซ (แหงล่ะ) ส่วนสไลด์ประกอบด้วยท่อ leadpipe ท่อใน ท่อนอก และ Stays คือส่วนเชื่อมท่อในและนอก (จริง ๆ คือที่จับใช่มั้ย) ขณะนี้ Sackbuts (ทรอมโบนโบราณ) ไม่ได้เชื่อม Stay เข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับเครื่อง (เป็นรูปแบบของทรอมโบนเยอรมันจนถึงกลางศตวรรษที่ 20)
สไลด์ ส่วนที่เห็นชัดและสำคัญที่สุดของทรอมโบน ผู้เล่นจะกำหนดเสียงได้จากการเลื่อนส่วนนี้ เพื่อที่จะลดแรงเสียดทานเมื่อเลื่อนสไลด์ มีการสร้างปลอกหุ้ม (?) ขึ้นมาในสมัยเรเนอซองส์ และได้รับการเชื่อมเข้าไปกับท่อด้านใน ทุกวันนี้ ปลอก (เรียกอย่างอื่นดีมั้ยนะ) ก็ได้รับการจดลิขสิทธิ์ (เพื่อ?) ในกระบวนการผลิตให้อยู่ติดกับสไลด์ด้านใน และต้องมีการจัดการขนาดอย่างระวังเพื่อลดแรงเสียดทานให้มากที่สุด และต้องมีการหยอดน้ำยาหล่อลื่นอยู่สม่ำเสมอ
ข้างบนนี้แปลเองจากวิกิภาษาปะกิต
ส่วนข้่างล่างนี่มาสด ๆ จากวิกิภาษาไทย http://th.wikipedia.org/wiki/Trombone
ทรอมโบนที่นิยมใช้ในปัจุจบันมี 4 ชนิด
Alto Trombone : มีระดับเสียงสูงที่สุด คีย์ Eb หรือ Eb/Bb alto trombone จะมีช่วงตำแหน่งการ silde ที่สั้น กว่า Tenor และ bass trombone bone ของ alto trombone จะคล้ายกับ tenor trombone แต่จะมีขนาดเล็กกว่า ปรมาณ 0.450"-0.500" และ bell ประมาณ 6.5" หรือ 7.5"
ส่วนลำโพงของ tenor trombone และฺ Bb/F
Tenor Trombone : มีระดับเสียงต่ำกว่า Alto มีคีย์เสียง Bb เป็นทรอมโบนมาตรฐานที่ใช้กันมากที่สุดในวงทุกประเภท และเป็นที่เริ่มนิยมอย่างมากในช่วงกลางของศตวรรษที่ 19 ในอังกฤกษ และ ฝรั่งเศส สำหรับบางเครื่องจะมี Valve หรือ rotaly value สำหรับใช้เปลี่ยนคีย์เสียงของเครื่องทรอมโบน และทำให้เล่นเสียงที่ต่ำลง (ต่ำว่า E2) ได้ อาจเรียก Trombone แบบนี้ว่า tuning slide trombone หรือ Tenor/Bass Trombone หรือ Bb/F Trombone อาจจะมีคีย์เสียงที่ต่ำ แต่จะไม่ต่ำได้กว่า bass tromboneมักมีขนาดปากแตรที่ 7½ ถึง 8½ นิ้ว
Marching Trombone : คือ Tenor Trombone คีย์ Bb ที่ใช้วาล์วแทนสไลด์เพื่อไม่ให้เกะกะ เป็นทรอมโบนที่ออกแบบให้เครื่องมีขนาดสั้นและน้ำหนักเบา สำหรับใช้ในวงโยธวาทิตเท่านั้น
Bass Trombone : มีระดับเสียงสูงสุดใกล้เคียงกับ Tenor Trombone แต่ช่วงเสียงต่ำนั้นต่ำกว่ามาก โดยทั่วไปมักมี Valve สำหรับเปลี่ยนคีย์และทำให้เสียงต่ำลงได้ และสำหรับบางเครื่องอาจมี Valve 2 ตัว ทำให้สามารถเปลี่ยนคีย์ของเครื่องได้หลากหลาย เช่น Bb/F/Gb/D หรือ Bb/F/G/Eb แล้วแต่รุ่นที่ผลิต มักมีเส้นผ่านศูนย์กลางท่อลม (Bore Size) ที่ใหญ่กว่า Tenor Trombone เช่น 0.562" หรือ 0.580" และมีขนาดปากแตร (Bell) ตั้งแต่ 9 ถึง 10½ นิ้ว
ทรอมโบนชนิดอื่นๆ
Soprano Trombone : หรือ Slide Trumpet มีระดับเสียงสูงมาก คีย์ Bb
Contrabass Trombone : หรือ Slide Tuba มีระดับเสียงต่ำกว่า Bass Trombone คีย์ Bb เริ่มใช้ครั้งแรกในอุปรากรของวากเนอร์เรื่อง Der Ring des Nibelungen (แหวนของนีเบลุงเงน) ในปี ค.ศ.1876 มีขนาดท่อลมตั้งแต่ 0.567" ถึง 0.635" แต่ที่นิยมคือระหว่าง 0.567" กับ 0.580"
Contrabass Trombone (รู้สึกเครื่องจะต่างกันนิดหน่อย?)
Valve Trombone : มีระดับเสียงเท่ากับ Tenor Trombone คีย์ Bb แต่ใช้ Valve เปลี่ยนเสียงแทนสไลด์ นิยมใช้ในวง Jazz หรือ Marching
Valve Trombone
Superbone : เป็นการผสมผสานระหว่าง Valve และ Slide ปรากฏในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 เคยรู้จักกันในชื่อ Valide Trombone นิยมใช้ในหมู่นักดนตรี jass ในปัจจุบันมักเรียกกันว่า Superbone
Superbone
เสร็จไปอีกหนึ่ง... นะ